ต๊ะ ท่าหลา

19/7/53

ใบงานที่ 7 ตรวจสิทธิครอบครองพรุควนเคร็ง

คำชี้แจง


ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่อ่านว่า เรื่องราวเป็นอย่างไร นักเรียนมีแนวคิด ในการปกป้องพื้นที่ป่าพรุควรเครง อย่างไร

       ชาวบ้านงง!ออกส.ป.ก.ให้นายทุน-ย้ำเป็นที่สาธารณะ
นครศรีธรรมราช - นายวรชาติ ศรีเปารยะ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวชี้แจงหลังเกิดเหตุไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงที่ผ่านมาในส่วนของส.ป.ก.นครศรีธรรมราช ว่าจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตโครงการปฏิรูปที่ดินป่าบ้านกุมแป ป่าบ้านในลุ่ม และป่าพรุควนเคร็ง หมู่ที่ 3 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด มีเกษตรกร 11 ราย 12 แปลง จัดสรรที่ดินเนื้อที่ 291 ไร่เศษ เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พัฒนาพื้นที่เพื่อปลูกปาล์มน้ำมันกับสถานีพัฒนาที่ดินนครศรีธรรมราช มีเสม็ดรุ่นหลัง อายุ 1-7 ปี ทั่วบริเวณทำให้สงสัยว่าพื้นที่เหมาะกับการปฏิรูปที่ดินหรือไม่ ต้องมีการตรวจสอบเพราะหลักหมุดเดิมสูญหาย ตรวจสอบสภาพทำเกษตรในอดีตที่ผ่านมาจากฝ่ายปกครองท้องที่ พยานบุคคล รวมทั้งภาพถ่ายทางอากาศ

ในส่วนของพื้นที่โครงการปฏิรูปที่ดินป่าท่าช้างข้าม หมู่ที่ 7 และ 12 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ มีพื้นที่ถูกไฟไหม้ 118 ไร่ ประกาศมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังพื้นที่ป่าพรุ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่มีสภาพเป็นป่าพรุ มีนายอำเภอท้องที่เป็นประธาน ตรวจสอบการได้มาซึ่งหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินที่มีสภาพเป็นป่าพรุ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดจับกุมหรือผู้ครอบครองที่ดินนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าได้มาโดยชอบหรือไม่อย่างไร

รายงานแจ้งว่าชาวบ้านในพื้นที่ระบุป่าพรุที่ถูกนายทุนเข้าครอบครองแล้วมีเอกสารสิทธินั้นว่าในพื้นที่ชาวบ้านอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคน เป็นพื้นที่อาศัยทำกินของชาวบ้านเก็บผัก หาปลาโดยไม่มีใครครอบครองเป็นของสาธารณะ แต่อยู่มากลับมีเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง และไม่ได้รับสิทธิจึงเป็นข้อสงสัยว่าหลักเกณฑ์อะไรถึงออกเอกสารได้ ยันว่าไม่มีใครเคยเข้ามาทำการเกษตรใดๆ ทั้งสิ้น ควรที่จะกลับมาฟื้นฟูให้เป็นสมบัติสาธารณะชาวบ้านทุกคนเข้าเก็บผักจับปลาได้